"สามารถกรองน้ำได้ 3 อุณหภูมิ ร้อน/เย็น/ปกติ ด้วยระบบตัวกรอง สามารถกรองดื่มได้ทั้งน้ำประปาและน้ำบาดาล"
ประโยชน์ของน้ำด่าง(alkaline)
1.ควบคุมโรคเบาหวาน มีการวิจัยที่ได้รับยอมรับจาก NCBI พบว่าน้ำด่างสามารถช่วยบรรเทาปัญหาทางกายภาพต่างๆได้ โดยการลดอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในร่างกาย มีฤทธิ์ต้านเบาหวาน (ลดน้ำตาลในเลือด) น้ำด่างจึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมปัญหาโรคเบาหวาน
2.ส่งเสริมสุขภาพกระดูก มีการศึกษาวิจัยที่จัดทำโดย Lausanne Hospital in Switzerland การวิจัยแสดงให้เห็นว่า น้ำด่างมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพกระดูก ออกฤทธิ์ลดธาตุที่ทำให้กระดูกเสื่อมได้
3.ควบคุมความดันโลหิตได้ NCBI ได้ทำการวิจัยน้ำด่างแล้วพบว่า น้ำด่างช่วยลดความหนืด และความเข้มข้นของเลือดได้ โดยความหนืดของเลือดจะสัมพันธ์กับความดันโลหิต (ยิ่งเลือดหนืดมากเท่าไหร่ ความดันก็ยิ่งสูงมากเท่านั้น) เราจึงบอกได้ว่าน้ำด่างมีประโยชน์ในการควบคุมความดันโลหิตได้ในระดับนึง
4.ช่วยในการลดน้ำหนัก มีการวิจัยจาก World Journal of Gastroenterology การวิจัยพบว่าน้ำอัลคาไลน์ที่ผ่านกระบวนการอิเล็กโทรไลต์มีฤทธิ์ต้านโรคอ้วน จึงมีส่วนช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
5.ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง น้ำด่างทำให้การรักษามะเร็งมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการวิจัยจาก NCBI พบว่าน้ำด่างช่วยเสริมสร้างเทโลเมียร์ (Telomere) ในร่างกายได้ ซึ่ง Telomere เป็นส่วนสำคัญของ DNA ทำหน้าที่ปกป้องโครโมโซม การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าการขาด pH ในร่างกายทำให้เกิดการขาดเทโลเมียร์ (Telomere) ซึ่งอาจนำไปสู่การทำลายเซลล์ได้ เทโลเมียร์ที่มีมากเกินไป สามารถมีบทบาทสำคัญในการป้องกันมะเร็งได้ ทำให้น้ำด่างมีประโยชน์ในการป้องกันการเติบโตของมะเร็งหรือเนื้องอก แต่มะเร็งเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิตนะครับ ดังนั้นเราควรรักษาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ห้ามสรุปเอาเองว่าการดื่มน้ำด่างจะทำให้หายจากโรคมะเร็ง
6.บรรเทาอาการกรดไหลย้อน มีการวิจัยจาก Voice Institute of New York พบว่าการดื่มน้ำด่างสามารถลดกรด และบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้
7.มีประโยชน์กับคุณแม่ตั้งครรภ์ น้ำด่างช่วยดูดซึมวิตามินที่ละลายน้ำได้ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกในการตั้งครรภ์ ทำให้ร่างกายสามารถรับภาวะเสียเลือดระหว่างคลอดบุตรได้ นอกจากนี้ยังช่วยส่งสารอาหารให้ทารกในครรภ์อีกด้วย การวิจัยในหนูพบว่า การดื่มน้ำด่างระหว่างตั้งครรภ์อาจช่วยพัฒนาการของทารกหลังคลอดบุตรได้ ช่วยเพิ่มน้ำหนักตัวของเด็กตลอดจนพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจของเด็ก
8.ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย น้ำด่างมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะล้างสารอันตรายและสารพิษออกจากร่างกายได้ เช่น แอลกอฮอล์
9.มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ การดื่มน้ำด่างช่วยปกป้องผิวพรรณของเราได้ การวิจัยพบว่าน้ำด่างมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ และต่อต้านริ้วรอย ช่วยป้องกันความชรา ความแก่ เหี่ยวย่นบนผิวหนังได้ นอกจากนี้การอาบน้ำด้วยน้ำด่างยังปกป้องผลกระทบของรังสีอัลตราไวโอเลตที่มีต่อผิวของเราได้
10.ทำให้เส้นผมแข็งแรง มีการวิจัยจาก NCBI การวิจัยระบุว่า น้ำดื่มที่มีค่า pH เป็นด่าง จะช่วยเติมธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม สตรอนเซียม โมลิบดีนัม เหล็ก และซีลีเนียมในร่างกาย แร่ธาตุเหล่านี้สามารถช่วยรักษาสุขภาพของเส้นผมได้
ไส้กรองที่1 PP (PolyPropylene) ไส้กรองเป็นด่านแรกของเครื่องกรองน้ำแทบจะทุกประเภทก็คือ ไส้กรอง PP ซึ่งจะช่วยกรองสารแขวนลอย ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกที่มีขนาดใหญ่ออกไป โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 1-10 ไมครอน ซึ่งจะช่วยไม่ให้ไส้กรองที่ละเอียดเกิดการอุดตันหรือสกปรกมากจนเกินไป
ไส้กรองที่2 CTO (Carbon Block) คาร์บอนบล็อกมีประสิทธิภาพในการกำจัดสารปนเปื้อนต่างๆ ออกจากน้ำได้หลากหลายชนิด รวมถึงคลอรีน ตะกอน สารอินทรีย์ และสิ่งเจือปนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกำจัดคลอรีนซึ่งเป็นสารฆ่าเชื้อทั่วไปที่ใช้ในโรงบำบัดน้ำของเทศบาล นอกจากนี้ คาร์บอนบล็อกยังมีประสิทธิภาพในการกำจัดสารปนเปื้อนอื่นๆ เช่น ยาฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืช และสารเคมีในอุตสาหกรรม ซึ่งอาจพบอยู่ในแหล่งน้ำ บล็อกคาร์บอนได้รับการเติมสารเติมแต่งพิเศษเพื่อขจัดสารตะกั่ว สารหนู และสารปนเปื้อนอื่นๆ
ไส้กรองที่ 3 UF (Ultrafiltration) ระบบ Ultrafiltration คือ ระบบกรองที่ใช้เส้นใยสังเคราะห์ที่ทำมาจากวัสดุบางๆหลายๆชั้นขดเป็นวงรวมกันในกระบอกไส้กรองน้ำ UF จำนวนหลายพันเส้น ซึ่งมีลักษณะคล้ายเบ็ดตกปลา มีรูพรุนหรือความละเอียดสูงถึง 0.01 ไมครอน ทำให้ดักจับตะกอน สิ่งสกปรก สารแขวนลอยได้ขนาดเล็กได้ โดยเฉพาะการกำจัดเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย
ไส้กรองที่ 4 (Alkaline) ไส้กรองน้ำโพสคาร์บอน (Post Carbon) ไส้กรองน้ำ Post Carbon เป็นไส้กรองน้ำขั้นสุดท้ายก่อนที่เราจะนำมาดื่ม มีคุณสมบัติในการกรองกลิ่น สี รส และคลอรีน ช่วยในกระบวนการสร้างน้ำด่าง มีส่วนกรองให้น้ำสะอาดขึ้นและยังเน้นเรื่องปรับรสชาติน้ำ ซึ่งทำมาจากคาร์บอนและบรรจุอยู่ในแคปซูล (Inline)
ที่สำคัญระบบกรอง UF ยังได้รับการรับรองคุณภาพจากสถาบัน NSF (National Sanitary Foundation) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลผู้บริโภคและพัฒนามาตรฐานบริการด้านสาธารณสุขที่ทั่วโลกให้การยอมรับ